หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เดินหน้าโปรเจ็กต์บิ๊กเร่งวางกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดัน SME สิ่งทอก้าวสู่ธุรกิจฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่รองรับอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายใน 3 ปี
อุตสาหกรรมสิ่งทอถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่สามารถปรับตัวและพัฒนาสู่อุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน สิ่งทอทางการแพทย์ (Medical textiles) สิ่งทอทางการเกษตร (Agro-textiles) สิ่งทอเพื่ออุตสาหกรรม (Industrial textiles) สิ่งทอยานยนต์ (Automotive and Aerospace) เป็นต้น
โดยช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่มีศักยภาพในการเติบโตสู่การเป็นธุรกิจฐานนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นคนกลางและเป็นกลไกบริหารงาน (Intermediary) และเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (IBDS) โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยมี IDEs อุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีรายได้สูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 ภายใน 3 ปี และเติบโตสู่การมีรายได้ 1,000 ล้านบาท ในอนาคต เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน
ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า ในฐานะสถาบันฯเป็นคนกลางและเป็นกลไกบริหารจัดการ (Intermediary) และดำเนินงานหลักภายใต้กิจกรรมดังกล่าว ในปี 2567 นั้น ได้วางแนวทางขับเคลื่อนผู้ประกอบการหรือ IDEs ประกอบไปด้วย 3 แนวทางคือ การหมุนเวียน (Circularity) การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) และ การปรับตัวสู่ดิจิทัล (Digitalization) โดยเน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก แบ่งเป็น 4 มิติ ได้แก่
1.สร้างนวัตกรรมให้กับสินค้า (Product Innovation)
2.ยกระดับกระบวนการผลิตด้วยนวัตกรรม (Process Innovation)
3.พัฒนาด้านการตลาดด้วยนวัตกรรม (Market Innovation) และ
4.การพัฒนารูปแบบธุรกิจด้วยนวัตกรรม (Organization Innovation)
มูลค่าทางด้านสังคม ผู้บริโภคได้ใช้นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถผลิตเองได้ภายในประเทศ
มูลค่าเพิ่มทางด้านสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในกระบวนการ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปนเปื้อนของสารพิษต่าง ๆ ลดการปล่อยของเสีย ลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
No comments:
Post a Comment